ต้นแมกโนเลียต้นเดียวที่เบ่งบานอย่างอ่อนโยน เปรียบเสมือนบทกวีที่งดงามในซอกหลืบแห่งกาลเวลา

ท่ามกลางความเร่งรีบและความวุ่นวายของชีวิตเรามักโหยหามุมสงบที่ดวงวิญญาณจะได้พักผ่อน และบทกวีจะได้เติบโตอย่างเงียบเชียบ ต้นแมกโนเลียต้นเดียวที่ฉันแบ่งปันให้ทุกคน เปรียบเสมือนนางฟ้าผู้อ่อนโยนที่เดินจากห้วงเวลาอันลึก ท่ามกลางห้วงเวลา มันได้ร่างภาพบทกวีอันงดงามให้เรา และทำให้แม้แต่วันธรรมดาๆ ก็เปล่งประกายเจิดจรัส
กลีบดอกแต่ละกลีบโค้งงอเล็กน้อย โค้งงออย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับเพิ่งสัมผัสสายลมอ่อนๆ และกำลังเบ่งบานอย่างงดงาม เกสรตัวผู้สีเหลืองอ่อนละมุนดุจนางฟ้าที่ถูกแสงอาทิตย์จุมพิต กระจายตัวอยู่ตามกลีบดอก เพิ่มความมีชีวิตชีวาและความสนุกสนานให้กับดอกแมกโนเลียต้นนี้
ยามค่ำคืน เมื่อฉันเอนกายลงบนเตียงและมองดูดอกแมกโนเลียที่เบ่งบานอย่างเงียบเชียบบนโต๊ะข้างเตียง ความทุกข์และความเหนื่อยล้าในใจก็ดูเหมือนจะหายไปในพริบตา กลีบดอกส่งประกายออร่าอันสงบนิ่งภายใต้แสงไฟสลัว ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝันอันเงียบสงบ การมีมันอยู่เคียงข้างทำให้ฉันหลับสนิทเป็นพิเศษทุกคืน เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและเห็นรูปลักษณ์อันน่าหลงใหลของมัน อารมณ์ของฉันก็จะเบิกบานเป็นพิเศษเช่นกัน
วางไว้ที่มุมโต๊ะ เวลาที่ฉันนั่งที่โต๊ะ หันหน้าเข้าหาคอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือ แล้วรู้สึกเหนื่อยล้า ตราบใดที่ฉันเงยหน้ามองดอกแมกโนเลียต้นนั้น ฉันจะสัมผัสได้ถึงความงามอันเรียบง่ายและสง่างามของมัน และแรงบันดาลใจก็จะหลั่งไหลมาเหมือนสายน้ำ
ชีวิตอาจเรียบง่าย แต่ตราบใดที่เราค้นพบและสร้างสรรค์ด้วยหัวใจ เราก็สามารถร่างเค้าโครงบทกวีอันเรียบง่ายและงดงามของเราเองในห้วงเวลาอันเลือนราง ดอกแมกโนเลียเพียงดอกเดียวคือกุญแจไขชีวิตแห่งบทกวี ทำไมไม่เลือกสักดอกให้ตัวเองบ้าง แล้วปล่อยให้มันอยู่เคียงข้างเราในทุก ๆ วันอันแสนวิเศษล่ะ