ดอกไม้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์และของขวัญมานานหลายศตวรรษ และดอกไม้แต่ละดอกก็มีความหมายเฉพาะตัว ความหมายนี้เรียกว่าภาษาดอกไม้ หรือ floriography เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดในตะวันออกกลางและได้รับความนิยมในยุควิกตอเรีย เมื่อการส่งข้อความผ่านดอกไม้กลายเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการแสดงอารมณ์
กุหลาบแดงอาจเป็นสัญลักษณ์ดอกไม้ที่รู้จักกันดีที่สุด สื่อถึงความรักและความหลงใหล ในทางกลับกัน กุหลาบสีเหลืองสื่อถึงมิตรภาพและความสุข ดอกลิลลี่สีขาวมักสื่อถึงความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสา ขณะที่ดอกเดซี่สื่อถึงความเรียบง่ายและความอ่อนน้อมถ่อมตน ดอกคาร์เนชั่นมีความหมายหลากหลายขึ้นอยู่กับสี โดยสีชมพูสื่อถึงความกตัญญูและความรัก
ดอกไม้ยอดนิยมอื่นๆ และความหมายมีดังนี้:
- ดอกทานตะวัน: ความชื่นชมและความภักดี
- กล้วยไม้: ความสวยงามและความแข็งแกร่ง
- ดอกโบตั๋น : ความเจริญรุ่งเรืองและโชคลาภ
- ไอริส: ศรัทธาและปัญญา
- ดอกไฮเดรนเยีย: ความกตัญญูและความอุดมสมบูรณ์
แม้ว่าความหมายของดอกไม้อาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและบริบท แต่โดยทั่วไปแล้วความหมายของดอกไม้จะสอดคล้องกัน สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ความหมายเบื้องหลังดอกไม้ยังขึ้นอยู่กับสีและจำนวนดอกที่บานด้วย
นอกจากการแสดงอารมณ์แล้ว ดอกไม้ยังมักใช้เพื่อสื่อความเสียใจและแสดงความเสียใจอีกด้วย การจัดดอกไม้ในงานศพมักประกอบด้วยดอกลิลลี่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูจิตวิญญาณหลังความตาย และดอกเบญจมาศ ซึ่งเป็นตัวแทนของวัฏจักรแห่งชีวิตและความตาย
ไม่ว่าจะมอบให้เป็นของขวัญหรือใช้ในโอกาสพิเศษ ดอกไม้ก็มีพลังในการถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกที่ซับซ้อน ความเข้าใจภาษาดอกไม้ช่วยให้เราแสดงความรู้สึกได้ดีขึ้นและเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เวลาโพสต์: 07 มี.ค. 2566
.jpg)
